ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สายไฟในบ้าน


สายไฟฟ้าในบ้าน

สายไฟฟ้า(Cable wire) มีความสำคัญอย่างมากในการส่ง หรือจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้านเรือน อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านพักของคุณ ซึ่งมีความซับซ้อนอยู่พอสมควรหากคุณไม่ใช่ช่างฟ้าที่มีความรู้เรื่องนี้มากพอสมควร ดังนั้นการเลือกซื้อสายไฟฟ้าเพื่อมาติดตั้งในบ้านพักของประชาชนทั่วไปนั้น อาจจะทำให้ได้สายไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นสำหรับการส่งกระแสไฟฟ้าเพื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือมีขนาดเล็กจนไม่สามารถทนกระแสที่มีมากกว่าความสามารถของสายไฟฟ้านั้นจะรับได้ และอาจจะเกิดความร้อนขึ้นที่สายไฟฟ้าจนทำให้ฉนวนที่หุ้มสายไฟฟ้าทั้ง 2เส้นนั้นละลายออก จากนั้นสายทองแดงหรืออลูมิเนียมจะเกิดการลัดวงจรเมื่อสัมผัสโดนกัน และเกิดประกายไฟที่อาจจะทำเกิดไฟไหม้ได้


สายไฟฟ้ามีหน้าที่สำหรับนำพลังงานไฟฟ้า จากแหล่งจ่ายไฟไปยังบริภัณฑ์หรือ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ผลิตสายไฟฟ้าขึ้นมากมายหลายชนิดตามความต้องการในรูปแบบต่างๆ เช่น สายไฟฟ้าเมนTHW สายเดี่ยวTHW สายไฟVCT สายไฟบ้านVAF สายไฟVSF สายไฟNYY สายไฟNYY-Ground สายไฟVAF-Ground สายไฟฟ้าบ้านปกติ สายไฟฟ้าฝังดิน สายไฟฟ้าอ่อนใช้ฝังดิน โดยผู้ใช้จะต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการด้วยกัน เช่นน ความเหมาะสมด้านสภาพแวดล้อมที่ตั้ง ความสามารถในการนำกระแสของตัวนำ ตัวนำสายไฟทองแดง ตัวนำสายไฟอลูมีเนียม ขนาดแรงดันตกที่เกิดขึ้น ความสามารถในการทนต่อความร้อนที่เกิดขึ้นทั้งในขณะใช้งานปกติและขณะเกิดการลัดวงจร
 

สายไฟฟ้าประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ 2 ส่วนได้แก่ ตัวนำและฉนวน


ตัวนำของสายไฟทำมาจากโลหะที่มีความนำไฟฟ้าสูง อาจจะอยู่ในรูปของตัวนำเดี่ยว Solid หรือตัวนำตีเกลียว Strand ซึ่งประกอบไปด้วยตัวนำเล็กๆ ตีเข้ากันเป็นเกลียวซึ่งมีข้อดีคือ การนำกระแสต่อพื้นที่สูงขึ้น และสามารถเดินสายไฟได้ง่ายมีความอ่อนตวกว่า โลหะที่นิยมนำมาทำเป็นตัวนำสายไฟได้แก่ สายไฟทองแดง และสายไฟอลูมีเนียม 


สายไฟทองแดง มีความแข็งแรง เหนียว ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี แต่มีข้อเสียคือ สายไฟทองแดงมีน้ำหนักมาและสายไฟทองแดงราคาสูง ไม่เหมาะกับงานด้านแรงดันสูง เหมาะกับการใช้งานโดยทั่วไปโดยเฉพาะงานในอาคาร


สายไฟอลูมีเนียม อะลูมีเนียม เป็นสายไฟที่สามารถนำไฟฟ้าได้สูงรองลงมาจากสายไฟทองแดง แต่เมื่อเปรียบเทียบในกรณีกระแสเท่ากันแล้ว พบว่าอะลูมีเนียมน้ำหนักเบากว่าและราคาถูกกว่า เหมาะกับการเดินสายไฟภายนอกอาคาร แต่ข้อเสียคือ สามารถเชื่อมต่อกันได้ยากลำบาก 


หรือการเลือกสายไฟฟ้าที่ไม่เหมาะสมในการใช้งานกับอุปกรณ์นั้นๆ หรือในสภาพแวดล้อมนั้น ซึ่งสายไฟฟ้านั้นมีหลายกหลายประเภทที่ผลิตออกมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งในที่นี่ขอยกตัวอย่างสายไฟฟ้าที่นิยมใช้งานสำหรับนำส่งกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆในบ้านเรือนทั่วไป เพื่อที่ท่านจะได้รู้จักชนิดของสายไฟฟ้า


    สายไฟฟ้า THW เป็นสายฟ้าที่ทนแรงดันไฟฟ้าได้มากถึง 750โวลต์(แล้วแต่ขนาด) มีฉนวนพีวีซีหุ้ม 1ชั้น และเป็นสายเพียงเส้นเดียว การติดตั้งต้องร้อยเข้าไปในท่อร้อยสายไฟฟ้าอีกทีหนึ่งเพื่อป้องกัน กรณีที่ต้องการฝังท่อในผนังคอรกรีตหรือเดินบนฝ้าเพดาน สาย THW นี้ไม่แนะนำให้ติดตั้งนอกอาคารหรือฝังใต้ดินโดนให้สายสัมผัสกับดินหรืออากาศโดยตรง จะต้องร้อยเข้าไปในท่อไฟฟ้าก่อนเท่านั้น


   สายไฟฟ้า VAFเป็นสายไฟฟ้าที่สามารถทนแรงดันไฟฟ้า 300 โวลต์(ไฟตามบ้านเรามีแรงดัน 220โวลต์) เป็นสายที่มี 2เส้น หรือ 3เส้น ในสายเส้นเดียว หุ้มด้วยฉนวนพีวีซี 2ชั้น สำหรับการติดตั้งภายในอาคารเท่านั้น ไม่ควรนำสาย VAFไปติดตั้งนอกอาคาร หรือฝังใต้ดิน เด็ดขาดครับเพราะฉนวนที่หุ้มสาย VAF นี้ไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศ แสดงดิน หรือสารอินทรีย์ที่อยู่ในดินได้นาน ที่เราสามารถเห็นได้โดยท่อไปที่ติดตั้งกับผนังหรือเพดานบ้านด้วยเข็มขัดรัดสาย หรือ Clip รัดสาย


   สายไฟฟ้า VCT เป็นสายไฟฟ้าที่สามารถฝังใต้ดิน หรือติดตั้งนอกอาคารได้ เช่นใช้สำหรับสายโคมไฟฟ้าในสวนหน้าบ้าน หรือสายไฟฟ้าที่จ่ายไปยังปั๊มน้ำรดน้ำต้นไม้ก็สามารถทำได้ เช่นกัน เป็นสายอ่อนที่มีฉนวนหุ้ม 2ชั้น และฉนวนชั้นนอกเป็นสามารถทนต่อสภาพอากาศ แรงสั่นสะเทือนได้ดี ทนแรงดันไฟฟ้าได้มาถึง 750โวลต์

   สาย CVV คือ สายส่งกำลังระบบควบคุม หุ้มด้วยฉนวน  และเปลือกนอก พีวีซี  แรงดัน 600 โวลต์  อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส มีทั้งแบบมีชิลด์ CVV-S และไม่มีชิลด์CVV-F 


การเลือกและคำนวณขนาดของสายไฟฟ้าแต่ละชนิดนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานกระไฟฟ้า ของบ้านแต่ละหลังว่าต้องการใช้กระแสไฟฟ้าสูงสุดนั้นเท่าไหร่ และสำหรับวงย่อยภายในบ้านต้องการกระแสไฟฟ้าเท่าไหร่ มีอุปกรณ์อะไรบ้าง แล้วเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบไหน จึงจะสามารถบอกออกมาเป็นขนาดของสายไฟฟ้าในวงจรหลัก และวงจรย่อยนั้นๆได้ โดยทั่วไปแล้วเรียกความต้องการกระแสไฟฟ้านี้ว่า “โหลดไฟฟ้า” ซึ่งจะนำไปคำนวณเพื่อหาขนาดของสายไฟฟ้าต่อไป


#สาระเรื่องไฟฟ้า #่ช่างไฟ #ซ่อมไฟ #เดินสายไฟ #รับเหมางานไฟ #ช่างแว่น #แกลง


หาช่างไฟพื้นที่แกลง ระยอง
โทร 0849454211 (ช่างแว่น)
ติดต่อสอบถามเรียกใช้บริการได้ตลอด 24ชม.

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

CONSUMER UNIT  (ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต)

CONSUMER UNIT (ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต) "แผงจ่ายไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัย" เป็นแผงไฟฟ้าสำเร็จรูปนิยมใช้ในบ้านและหรือสำนักงานขนาดเล็กที่ใช้ไฟฟ้าระบบ 1 เฟส 220 โวลท์ มีลักษณะดังรูป Consumer Unit ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต ประกอบด้วยเมนเบรคเกอร์ (2 ขั้ว) และเบรคเกอร์ย่อย (1 ขั้ว) ที่เสียบต่ออยู่กับ bus bar มีขั้วต่อสายนิวทรอล และขั้วต่อสายกราวด์ ที่นิยมใช้ทั่วไปมีจำนวนวงจรย่อยตั้งแต่ 4-16 วงจรย่อย รูปด้านบนแสดงรายละเอียดภายในของ consumer unit ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต • หมายเลข1 = เมนเบรคเกอร์ 2 ขั้ว ให้เลือกขนาดตามมิเตอร์ของการไฟฟ้า (สูงสุดไม่เกิน 100 A) • หมายเลข2 = bus bar สำหรับวงจรขนาด 100 A • หมายเลข3 = Neutral Lug (N) • หมายเลข4 = Ground bar (G) • หมายเลข5 = miniature CB. แบบ 1 ขั้ว สำหรับวงจรย่อย • หมายเลข6 = Earth leakage miniature CB. แบบ 1 ขั้ว (เป็นเบรคเกอร์ชนิดกันไฟดูด อาจใช้หรือไม่ก็ได้) การเลือก consumer unit ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต มาใช้งานให้พิจารณาจากจำนวนวงจรย่อยที่ต้องการและควรเผื่อไว้ 1-2 วงจรสำหรับโหลดในอนาคต การซื้อ consumer จะได้รับเพียงตัว consumer และเมนเบรคเกอร

จัดไฟในบ้านให้ถูกหลัก..ฮวงจุ้ย

 เพื่อนๆ หลายคนมองข้ามเรื่องการวางระบบไฟฟ้าภายในบ้าน และไม่ค่อยใส่ใจสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะยกให้เป็นหน้าที่ของช่างไฟ แต่ในทาง ฮวงจุ้ย เรื่องของไฟฟ้านั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญค่อนข้างมากเช่นเดียวกับการจัดฮวงจุ้ยในรูปแบบอื่นๆ เพราะ “แสงสว่าง” บ่งบอกถึงพลังชีวิต เป็นพลังหยางที่เคลื่อนไหว และนำโชคลาภมาสู่บ้าน การจัดระบบไฟฟ้าจึงควรควรเลือกตำแหน่งของ หลอดไฟ ให้ดี วันนี้จึงนำข้อมูลฮวงจุ้ยเรื่องการจัดวาง หลอดไฟ ในบ้าน มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ 1. ไฟหน้าประตูรั้ว ไฟหน้าประตูรั้ว : ควรมีหลอดไฟ 2 ดวงวางด้านข้างประตู เปิดทิ้งไว้ในเวลากลางคืนเพื่อดึงโชคลาภเข้าสู่บ้าน เหตุผลที่ต้องติดไฟ 2 ดวง ก็เพื่อให้เกิดความสมดุลนั่นเอง นอกจากนี้กรณีที่บริเวณตรงข้ามกับบ้านเป็นบ้านร้าง หรือที่รกร้าง ไฟหน้าบ้านจะช่วยแก้ไขเรื่องพลังหยินพิฆาตได้อย่างดีอีกด้วย 2. ไฟในห้องนอน ไฟในห้องนอน : ไม่ควรใช้ไฟประเภทหลอดเปลือยมองเห็นหลอดไฟ ควรจะเป็นไฟติดโคมที่กรองแสง หรือทำเพดานหลุมเพื่อซ่อนไฟเอาไว้ และห้ามวางตำแหน่งของดวงไฟตรงกับเตียงนอน เพราะแสงจะสว่างจนเกินไปทำให้รบกวนการนอน 3. ไฟห้องน้ำ ไฟห้องน้ำ : ควรใช้ไฟที่สว่าง เพราะห้องน