ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์, 2018

สายไฟในบ้าน

สายไฟฟ้าในบ้าน สายไฟฟ้า(Cable wire) มีความสำคัญอย่างมากในการส่ง หรือจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้านเรือน อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านพักของคุณ ซึ่งมีความซับซ้อนอยู่พอสมควรหากคุณไม่ใช่ช่างฟ้าที่มีความรู้เรื่องนี้มากพอสมควร ดังนั้นการเลือกซื้อสายไฟฟ้าเพื่อมาติดตั้งในบ้านพักของประชาชนทั่วไปนั้น อาจจะทำให้ได้สายไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นสำหรับการส่งกระแสไฟฟ้าเพื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือมีขนาดเล็กจนไม่สามารถทนกระแสที่มีมากกว่าความสามารถของสายไฟฟ้านั้นจะรับได้ และอาจจะเกิดความร้อนขึ้นที่สายไฟฟ้าจนทำให้ฉนวนที่หุ้มสายไฟฟ้าทั้ง 2เส้นนั้นละลายออก จากนั้นสายทองแดงหรืออลูมิเนียมจะเกิดการลัดวงจรเมื่อสัมผัสโดนกัน และเกิดประกายไฟที่อาจจะทำเกิดไฟไหม้ได้ สายไฟฟ้ามีหน้าที่สำหรับนำพลังงานไฟฟ้า จากแหล่งจ่ายไฟไปยังบริภัณฑ์หรือ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ผลิตสายไฟฟ้าขึ้นมากมายหลายชนิดตามความต้องการในรูปแบบต่างๆ เช่น สายไฟฟ้าเมนTHW สายเดี่ยวTHW สายไฟVCT สายไฟบ้านVAF สายไฟVSF สายไฟNYY สายไฟNYY-Ground สายไฟVAF-Ground สายไฟฟ้าบ้านปกติ สายไฟฟ้าฝังดิน สายไฟฟ้าอ่อนใช้ฝังดิน โดยผู้ใช้จะต้องพิ

วิธีดูแลรักษาทำความสะอาดพัดลม

          วิธีดูแลและทำความสะอาดพัดลมตั้งโต๊ะและพัดลมเพดาน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียเงินซื้อตัวใหม่เพราะไม่รู้วิธีการใช้งานและดูแลรักษาพัดลมอย่างเหมาะสม           ต่อให้วิวัฒนาการของโลกจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน จะมีเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ที่ล้ำ ๆ ออกมาอย่างไร แต่บ้านเราก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้พัดลมอยู่ดี เพราะคนเมืองร้อนอย่างเราไม่สามารถอยู่อากาศเย็น ๆ ได้ตลอดเวลาหรอกค่ะ ดังนั้นกระปุกดอทคอมเลยนำวิธีการดูแลรักษาและทำความสะอาดพัดลมแบบตั้งโต๊ะและพัดลมเพดานมาฝากกันค่ะ แม้จะเป็นวิธีง่าย ๆ ดูเหมือนไม่ต้องใส่ใจอะไรมากมาย แต่เราก็ไม่ควรละเลย วิธีดูและทำความสะอาดพัดลม 1. หมั่นหยอดน้ำมันหล่อลื่นทุกฤดูกาล            ประสิทธิภาพในการทำงานของพัดลม ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาลด้วยเหมือนกันนะคะ ถ้าไม่อยากให้ระบบภายในของพัดลมฝืดเคือง มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดทุกครั้งที่เปิด หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หมั่นหยอดน้ำมันหล่อลื่นบนตามเกลียวใบพัดและแกนมอเตอร์ เพื่อบำรุงรักษาให้พัดลมใช้งานได้ยาวนาน 2. ปลี่ยนอะไหล่พัง ๆ ให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม            หมั่นตรวจเช็กและสังเกตการทำงานขอ

กาาเลือกโคมดาวน์ไลท์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือก ดาวไลท์ ให้เหมาะ สม กับการใ ช้งาน ควรต้องคำนึงถึงคุณลักษณะที่เหมาะสมของโคมไฟ พื้นที่ใช้งาน และประเภทของตัวหลอดไฟที่ใช้คู่กัน ซึ่งจะมีผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานของทั้งตัวโคมและหลอดไฟ โดยโคม DOWNLIGHT ที่ใช้หลอดแบบ LED ก็จะให้ความสว่างมาก แต่จะกินไฟน้อย อายุการใช้งานก็จะยาวนานกว่าตั้งแต่ 20, 000-50 ,000 ชั่วโมง เปิดปิดได้เท่าที่ต้องการโดยที่ไม่ต้องกลัวหลอดขาดเลยแม้แต่น้อย วิธีการเลือกโคมดาวน์ไลท์ในพื้นที่กว้างและมีเพดานที่สูงก็ควรเลือกโคมดาวน์ไลท์ขนาด 6 นิ้วขึ้นไป เพราะด้วยโคมขนาดใหญ่จะมีวงในการกระจายแสงออกไปที่กว้างกว่า ทำให้ไม่จำเป็นต้องติดหลายดวง ลดการเจาะฝ้าลงได้เป็นอย่างดี โดยที่ความสูงของฝ้าก็ก็มีผลต่อความเข้มและการกระจายออกของแสงไฟ เพราะถ้าติดในฝ้าเตี้ยจะทำให้แสงสว่างส่องตรงจุดและจะเป็นในมุมแคบ แต่ถ้าฝ้าสูงก็จะให้แสงสว่างเป็นมุมกว้าง และความเข้มของแสงจะลดลง การให้แสงของโคมดาวน์ไลท์ โดยดูว่าโคมติดหลอดแนวตั้งแสงจะส่งด้านล่างเป็นมุมแคบ เหมาะสำหรับการเน้นสว่างเป็นเฉพาะจุดในห้องที่มีพื้นใต้ฝ้าที่ลึก โคมติดหลอดแนวนอนจะให้มุมแสงที่กว้าง สว่างเต็มแนวยาวของหลอดเหมาะสำหรับผ

การใช้และดูแลรักษาเตารีด

เตารีด           เตารีดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้ความร้อน ซึ่งในการรีดแต่ละครั้งจะกินไฟมาก ดังนั้นจึงควรรู้จัดวิธีใช้อย่างประหยัดและปลอดภัย ดังนี้             ก่อนอื่นควรตรวจสอบดูว่าเตารีดอยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้งานหรือไม่ เช่น สาย ตัวเครื่อง เป็นต้น       -      ตั้งปุ่มปรับความร้อนให้เหมาะสมกับชนิดของผ้า        -     อย่าพรมน้ำจนเปียกแฉะ             ดึงเต้าเสียบออกก่อนจะรีดเสร็จประมาณ 2-3 นาที แล้วรีดต่อไปจนเสร็จ     -        ควรพรมน้ำพอสมควร      -     ถอดปลั๊กออกเมื่อไม่ได้ใช้      -       ควรรีดผ้าคราวละมากๆ ติดต่อกันจนเสร็จ      -     ควรเริ่มรีดผ้าบาง ๆ ก่อน ขณะเตารีดยังไม่ร้อน       -      ควรดึงปลั๊กออกก่อนรีดเสร็จเพราะยังร้อนอีกนาน       -   ควรซักและตากผ้าโดยไม่ต้องบิด จะทำให้รีดง่ายขึ้น หาช่างไฟพื้นที่แกลง ระยอง คลิกที่นี่

การใช้และดูแลไฟฟ้าส่องสว่าง

การใช้และการดูแล ไฟฟ้าส่องสว่าง        -     ควรปิดไฟทุกครั้งเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง        -     เลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์เหมาะสมกับการใช้งาน        -     สำหรับบริเวณที่ต้องการความสว่างมาก ภายในอาคารควรเลือกใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ ส่วนภายนอกอาคารควรเลือกใช้หลอดไอโซเดียม และหลอดไอปรอท        -     ควรใช้ฝาครอบดวงโคมแบบใสหากไม่มีปัญหาเรื่องแสงจ้า และหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ      -       พิจารณาใช้โคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับงานที่ต้องการแสงสว่างจุดเดียว ทีวี วิทยุ ปิดเครื่องทุกครั้งเมื่อไม่ได้ดู       -      ควรถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้เป็นเวลานาน       -      ควรเลือกใช้โคมไฟแบบสะท้อนแสงแทนแบบเดิมที่ใช้พลาสติกปิด        -     ควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์หรือหลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ แทนหลอดไส้ ซึ่งมีคำแนะนำในการใช้ดังนี้     -        หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบผอม ขนาด 18 วัตต์ และ 36 วัตต์ มีความสว่างเท่ากับ หลอด 20 วัตต์ และ 40 วัตต์แต่ประหยัดไฟกว่า และสามารถใช้แทนกันได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์    -         หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์มี 2 ชนิด คือ ชนิดมีบัลลาสต์ภายใน สามารถใช้แทนหลอดกลมแบ

วิธีลดค่าไฟแอร์

วิธีลดค่าไฟแอร์ การเลือกซื้อและติดตั้ง 1. ติดตั้งแอร์ให้ถูกตำแหน่ง ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งนั้น ควรเป็นตำแหน่งที่สามารถกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงโดยไม่มีอะไรมาบดบังทิศทางลม กรณีเป็นห้องนอน อาจให้อยู่ปลายเตียง ข้างเตียง แต่ไม่ควรใกล้หรือสูงจนเกินไป เพราะจะกลายเป็นนอนใต้แอร์​ ซึ่งทำให้ลมเย็นพัดข้ามผ่าน และไม่ไกลจนเกินไป เพราะระยะทางทำให้ความเย็นลดลง ผู้ใช้จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิแอร์ที่ตำกว่าปกติ ส่งผลให้เปลืองค่าไฟได้ ทิศทางของผนังก็มีผลต่อการทำความเย็น หากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงติดตั้งแอร์ในทิศทางที่โดนแสงแดดโดยตรงเพราะจะส่งผลให้แอร์ทำงานหนักกว่าปกติในช่วงกลางวัน 2. เลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง ขนาด BTU ที่ต่ำ ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่า จะทำให้ประหยัดค่าไฟ ความเหมาะสมเท่านั้น ที่จะสามารถประหยัดได้ดีที่สุด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การคำนวณ BTU กับขนาดของห้อง 3. ปกปิดอย่างมิดชิด หลักการทำความเย็นของแอร์ จะคอยควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ ตามที่ผู้ใช้ได้กำหนดค่าอุณหภูมิไว้ หากห้องดังกล่าวอยู่ในลักษณะเปิด ความเย็นภายในจะออกสู่ภายนอก ทำให้แอร์ทำงานหนักตลอดเวลา ควรปิดประตู หน้าต

วิธีตรวจไฟฟ้ารั่วในบ้านแบบง่ายๆและปลอดภัย

วิธีตรวจไฟฟ้ารั่วใน “บ้าน” แบบง่ายๆ และปลอดภัย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบ้านเรามีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น นี่เลยค่ะ เหล่านี้เป็นวิธีสำหรับทดสอบและตรวจเช็คกระแสไฟฟ้าในบ้านของเราว่ามีไฟรั่วเกิดขึ้นหรือไม่ 1.ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดในบ้าน โดยไม่ต้องดึงคัทเอาท์หรือเบรกเกอร์ลง จากนั้นให้ลองสังเกตที่มิเตอร์ของที่บ้านว่าแผ่นจานภายในมิเตอร์นั้นหมุนหรือไม่ ถ้าแผ่นจานภายในมิเตอร์ยังหมุนอยู่ ให้ลองเช็คอีกรอบว่าปิดไฟทุกดวงภายในบ้านแล้วหรือยัง แต่ถ้าตรวจสอบแล้วปรากฏว่าคุณปิดไฟทุกดวงแล้ว แสดงว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น 2.อย่าวางใจแม้มิเตอร์จะหยุดหมุน คุณอาจลองจดหมายเลขมิเตอร์และจดจำตำแหน่งแผ่นหมุนว่าหยุดอยู่ในตำแหน่งใด จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วกลับมาเช็คอีกรอบ ถ้าทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมแสดงว่าไม่มีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น 3.หากคุณไม่มั่นใจว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วที่เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใดในบ้านหรือเปล่า จะลองใช้ไขควงวัดไฟแตะไปที่เฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น หากมีแสงสีแดงปรากฏขึ้นที่ไขควง แสดงว่าเกิดไฟฟ้ารั่วจากเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้น หากพบปัญหาไฟฟ้าขัดข้อง ไฟฟ้าดับ สามารถแจ้งสายด่วน 1129 การไฟฟ้าส่วนภูมิภ