ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วิธีลดค่าไฟแอร์

วิธีลดค่าไฟแอร์

การเลือกซื้อและติดตั้ง

1. ติดตั้งแอร์ให้ถูกตำแหน่ง ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งนั้น ควรเป็นตำแหน่งที่สามารถกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึงโดยไม่มีอะไรมาบดบังทิศทางลม กรณีเป็นห้องนอน อาจให้อยู่ปลายเตียง ข้างเตียง แต่ไม่ควรใกล้หรือสูงจนเกินไป เพราะจะกลายเป็นนอนใต้แอร์​ ซึ่งทำให้ลมเย็นพัดข้ามผ่าน และไม่ไกลจนเกินไป เพราะระยะทางทำให้ความเย็นลดลง ผู้ใช้จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิแอร์ที่ตำกว่าปกติ ส่งผลให้เปลืองค่าไฟได้ ทิศทางของผนังก็มีผลต่อการทำความเย็น หากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงติดตั้งแอร์ในทิศทางที่โดนแสงแดดโดยตรงเพราะจะส่งผลให้แอร์ทำงานหนักกว่าปกติในช่วงกลางวัน

2. เลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง ขนาด BTU ที่ต่ำ ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่า จะทำให้ประหยัดค่าไฟ ความเหมาะสมเท่านั้น ที่จะสามารถประหยัดได้ดีที่สุด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : การคำนวณ BTU กับขนาดของห้อง

3. ปกปิดอย่างมิดชิด หลักการทำความเย็นของแอร์ จะคอยควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ ตามที่ผู้ใช้ได้กำหนดค่าอุณหภูมิไว้ หากห้องดังกล่าวอยู่ในลักษณะเปิด ความเย็นภายในจะออกสู่ภายนอก ทำให้แอร์ทำงานหนักตลอดเวลา ควรปิดประตู หน้าต่าง ให้มิดชิด ติดผ้าม่านหนาๆ หากชอบหน้าต่างกระจก แนะนำให้ใช้กระจกฟิล์มดำ กระจกป้องกันความร้อน หากห้องมีขนาดกว้างมาก อาจใช้ผ้าม่านกั้นแอร์ มาเป็นฉากกั้นห้อง ก็สามารถช่วยควบคุมได้ระดับหนึ่ง

4. ติดตั้งคัทเอาท์แยกสำหรับแอร์ : โดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักนิยมปิดแอร์ด้วยรีโมทเพียงอย่างเดียว หลายท่านอาจไม่ทราบว่า แม้จะปิดแอร์แล้ว แต่ระบบไฟฟ้ายังคงทำงานอยู่ แม้จะมีอัตราสิ้นเปลืองที่ไม่มากก็ตาม การปิดคัทเอาท์ จะเป็นการปิดการทำงานแอร์อย่างสมบูรณ์ แม้จะลดพลังงานไปเพียงนิด แต่ก็ทำให้ลดลงได้ครับ อีกทั้งยังมีกรณีศึกษา แอร์บางรุ่น จะมีระบบรีเซ็ทอัตโนมัติ เช่น กรณีไฟฟ้าดับ หลังจากไฟฟ้าติดปกติ แอร์จะเปิดการทำงานขึ้นเองอัตโนมัติ หากผู้ใช้ไม่อยู่บ้าน กรณีไม่ปิดคัทเอาท์ แอร์อาจทำงานอัตโนมัติได้ครับ ทั้งนี้การฝึกปิดคัทเอาท์ให้ติดเป็นนิสัย ยังช่วยส่งผลให้ผู้ใช้ รู้จักปิดและถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เป็นพฤติกรรมติดตัวไปอีกด้วย

การใช้งานอย่างถูกวิธี

5. ถ่ายเทอากาศ : ก่อนเข้าห้อง หากเป็นช่วงยามเย็น แนะนำให้เปิดประตู เปิดหน้าต่าง ทิ้งไว้ เพื่อให้อากาศหมุนเวียน ไล่ลมร้อนภายในห้องออก รับลมใหม่จากภายนอกเข้า

6.แอร์ในอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 25 องศา ประมาณ 26-28 องศาได้ยิ่งดี เพราะโดยปกติแล้ว ร่างกายของมนุษย์ จะสามารถรับความเย็นระดับ 27 องศาได้อย่างสบายตัว ไม่หนาว ไม่ร้อนจนเกินไป แต่หากรู้สึกร้อน อาจปรับมาสัก 26 องศา และหากรู้สึกเย็น สามารถปรับขึ้นได้ ยิ่งปรับขึ้นยิ่งประหยัด แต่ไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นจนรู้สึกร้อน เพราะจะเป็นการใช้แอร์ผิดวัตถุประสงค์ คลิกอ่าน อุณภูมิแอร์ที่ประหยัด

7. หากต้องการประหยัดมากกว่าเดิม อาจปรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้นแล้วใช้เทคนิคพัดลมช่วย พัดลมจะสามารถช่วยพัดความเย็นได้อย่างดีขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิให้ต่ำมากนัก โดยปกติแล้วพัดลมจะใช้พลังงานน้อยกว่าแอร์หลายเท่า แม้จะเปิดพัดลม 10 ตัว ก็ยังใช้พลังงานน้อยกว่าแอร์เพียง 1 ตัว

8. ใส่เสื้อผ้าบาง ในช่วงหน้าร้อน การใส่เสื้อผ้าบางๆ ช่วยคลายความร้อนได้ดี ทั้งในช่วงเวลาปกติ และในช่วงของการนอน เสื้อผ้าบางๆ ช่วยให้สัมผัสความเย็นของแอร์ได้รวดเร็ว รวมถึงผ้าห่ม ไม่ควรห่มผ้าหนา ควรเลือกผ้าบางและเย็น เช่น ผ้าแพร เป็นต้น

9. ลดการใช้งาน ปัจจุบันแอร์ทุกรุ่น สามารถตั้งเวลาปิดได้ ผู้ใช้อาจคำนวณจากเวลาตื่น เช่น ตื่นประมาณ 6 โมงเช้า ให้แอร์ทำงานถึง 5 โมงเช้าก็เพียงพอแล้ว เพราะตอนรุ่งเช้า อากาศภายนอกไม่ร้อนมากนัก เมื่อรวมกับอุณหภูมิภายในห้องที่สะสมความเย็นมาทั้งคืน ความเย็นภายในห้อง ยังเป็นระดับที่กำลังสบายครับ

10. ปิดการใช้งาน อย่างไรก็ตาม วิธีที่จะประหยัดได้ดีที่สุดนั้นคือ ปิดการใช้งาน ข้อนี้ ไม่ได้หมายถึงห้ามใช้ แต่ให้รู้จักใช้อย่างรอบคอบ คุณผู้อ่านอาจหาพื้นที่พักผ่อนในสวนข้างบ้าน ทดแทนการอยู่ภายในบ้าน หรือหาทำกิจกรรมอื่นๆ มาทำ เช่น ออกกำลังกายนอกบ้านยามเย็น สิ่งเหล่านี้ เป็นการแทรกกิจกรรมมาทดแทน ได้ทั้งสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดี อีกทั้งยังช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้อย่างดีเลย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สายไฟในบ้าน

สายไฟฟ้าในบ้าน สายไฟฟ้า(Cable wire) มีความสำคัญอย่างมากในการส่ง หรือจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้านเรือน อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านพักของคุณ ซึ่งมีความซับซ้อนอยู่พอสมควรหากคุณไม่ใช่ช่างฟ้าที่มีความรู้เรื่องนี้มากพอสมควร ดังนั้นการเลือกซื้อสายไฟฟ้าเพื่อมาติดตั้งในบ้านพักของประชาชนทั่วไปนั้น อาจจะทำให้ได้สายไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นสำหรับการส่งกระแสไฟฟ้าเพื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือมีขนาดเล็กจนไม่สามารถทนกระแสที่มีมากกว่าความสามารถของสายไฟฟ้านั้นจะรับได้ และอาจจะเกิดความร้อนขึ้นที่สายไฟฟ้าจนทำให้ฉนวนที่หุ้มสายไฟฟ้าทั้ง 2เส้นนั้นละลายออก จากนั้นสายทองแดงหรืออลูมิเนียมจะเกิดการลัดวงจรเมื่อสัมผัสโดนกัน และเกิดประกายไฟที่อาจจะทำเกิดไฟไหม้ได้ สายไฟฟ้ามีหน้าที่สำหรับนำพลังงานไฟฟ้า จากแหล่งจ่ายไฟไปยังบริภัณฑ์หรือ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ผลิตสายไฟฟ้าขึ้นมากมายหลายชนิดตามความต้องการในรูปแบบต่างๆ เช่น สายไฟฟ้าเมนTHW สายเดี่ยวTHW สายไฟVCT สายไฟบ้านVAF สายไฟVSF สายไฟNYY สายไฟNYY-Ground สายไฟVAF-Ground สายไฟฟ้าบ้านปกติ สายไฟฟ้าฝังดิน สายไฟฟ้าอ่อนใช้ฝังดิน โดยผู้ใช้จะต้องพิ

CONSUMER UNIT  (ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต)

CONSUMER UNIT (ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต) "แผงจ่ายไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัย" เป็นแผงไฟฟ้าสำเร็จรูปนิยมใช้ในบ้านและหรือสำนักงานขนาดเล็กที่ใช้ไฟฟ้าระบบ 1 เฟส 220 โวลท์ มีลักษณะดังรูป Consumer Unit ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต ประกอบด้วยเมนเบรคเกอร์ (2 ขั้ว) และเบรคเกอร์ย่อย (1 ขั้ว) ที่เสียบต่ออยู่กับ bus bar มีขั้วต่อสายนิวทรอล และขั้วต่อสายกราวด์ ที่นิยมใช้ทั่วไปมีจำนวนวงจรย่อยตั้งแต่ 4-16 วงจรย่อย รูปด้านบนแสดงรายละเอียดภายในของ consumer unit ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต • หมายเลข1 = เมนเบรคเกอร์ 2 ขั้ว ให้เลือกขนาดตามมิเตอร์ของการไฟฟ้า (สูงสุดไม่เกิน 100 A) • หมายเลข2 = bus bar สำหรับวงจรขนาด 100 A • หมายเลข3 = Neutral Lug (N) • หมายเลข4 = Ground bar (G) • หมายเลข5 = miniature CB. แบบ 1 ขั้ว สำหรับวงจรย่อย • หมายเลข6 = Earth leakage miniature CB. แบบ 1 ขั้ว (เป็นเบรคเกอร์ชนิดกันไฟดูด อาจใช้หรือไม่ก็ได้) การเลือก consumer unit ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต มาใช้งานให้พิจารณาจากจำนวนวงจรย่อยที่ต้องการและควรเผื่อไว้ 1-2 วงจรสำหรับโหลดในอนาคต การซื้อ consumer จะได้รับเพียงตัว consumer และเมนเบรคเกอร

จัดไฟในบ้านให้ถูกหลัก..ฮวงจุ้ย

 เพื่อนๆ หลายคนมองข้ามเรื่องการวางระบบไฟฟ้าภายในบ้าน และไม่ค่อยใส่ใจสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะยกให้เป็นหน้าที่ของช่างไฟ แต่ในทาง ฮวงจุ้ย เรื่องของไฟฟ้านั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญค่อนข้างมากเช่นเดียวกับการจัดฮวงจุ้ยในรูปแบบอื่นๆ เพราะ “แสงสว่าง” บ่งบอกถึงพลังชีวิต เป็นพลังหยางที่เคลื่อนไหว และนำโชคลาภมาสู่บ้าน การจัดระบบไฟฟ้าจึงควรควรเลือกตำแหน่งของ หลอดไฟ ให้ดี วันนี้จึงนำข้อมูลฮวงจุ้ยเรื่องการจัดวาง หลอดไฟ ในบ้าน มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ 1. ไฟหน้าประตูรั้ว ไฟหน้าประตูรั้ว : ควรมีหลอดไฟ 2 ดวงวางด้านข้างประตู เปิดทิ้งไว้ในเวลากลางคืนเพื่อดึงโชคลาภเข้าสู่บ้าน เหตุผลที่ต้องติดไฟ 2 ดวง ก็เพื่อให้เกิดความสมดุลนั่นเอง นอกจากนี้กรณีที่บริเวณตรงข้ามกับบ้านเป็นบ้านร้าง หรือที่รกร้าง ไฟหน้าบ้านจะช่วยแก้ไขเรื่องพลังหยินพิฆาตได้อย่างดีอีกด้วย 2. ไฟในห้องนอน ไฟในห้องนอน : ไม่ควรใช้ไฟประเภทหลอดเปลือยมองเห็นหลอดไฟ ควรจะเป็นไฟติดโคมที่กรองแสง หรือทำเพดานหลุมเพื่อซ่อนไฟเอาไว้ และห้ามวางตำแหน่งของดวงไฟตรงกับเตียงนอน เพราะแสงจะสว่างจนเกินไปทำให้รบกวนการนอน 3. ไฟห้องน้ำ ไฟห้องน้ำ : ควรใช้ไฟที่สว่าง เพราะห้องน