ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

5.วิธีจัดการ บัตรเครดิต ค่าธรรมเนียมรายปี ไปต่อดีมั้ย


5.วิธีการจัดการบัตรเครดิตค่าทำเนียมรายปีแสนโหดไปต่อดีมั้ย

ค่าธรรมเนียมรายปี แสนแพง 
หลายปีที่ผ่านมา บัตรเครดิตมอบสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าเยอะมากๆ ทั้งในด้านปริมาณและประสิทธิภาพ สำหรับบางท่าน คะแนนแต้มสะสมรางวัลบัตรเครดิต อาจทำให้คุณได้สิทธิพิเศษรับบริการห้องรับรองพิเศษ หรือเลาจน์ที่สนามบินเกือบทั่วโลก และยังได้รับสิทธิยกเว้นค่าธรรมเนียมสายการบิน, รับเครดิตสำหรับเดินทางรวมกว่าหลายร้อยดอลล่าร์, มอบสถานะสมาชิกสุด exclusive, แต้มสะสมเครดิตเงินคืน, ประกันเช่ารถยนต์, และไมล์สะสมเที่ยวบินในบัญชีบัตรเครดิตของคุณ

สิทธิประโยชน์ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นทั้งหมดนี้ สมาชิกบัตรเครดิตคงไม่ไดมาฟรีๆ แต่มักต้องแลกมาด้วยค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตรายปี แต่จะทำอย่างไรหล่ะหากว่า บัตรเครดิตที่คุณถืออยู่มีค่าธรรมเนียมรายปีที่สูงจนเกินงบประมาณของคุณ?

1. การจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี อาจจะไม่ได้เเย่ขนาดนั้น
ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตรายปี อาจจะไม่ได้แพงขนาดนั้น ถ้าเกิดคุณเทียบกับสิทธิประโยชน์ที่คุณจะได้รับเป็นการตอบเเทน ยกตัวอย่าง บัตรเครดิตธนชาติ Black Diamond ที่มาพร้อมค่าธรรมเนียมรายปี แต่คุณก็จะรับบริการสุดพิเศษ อย่าง รถรับ-ส่ง ลีมมูซีนเมื่อไปสนามบิน, ห้องรับรองพิเศษ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ใช้บริการฟิตเนสโรงแรมชั้นนำ เป็นต้น บัตรเครดิตบางประเภทสามารถเวฟค่าธรรมเนียมหากมี

สิ่งสำคัญที่คุณคิดเอาไว้เสมอก็คือ ค่าธรรมเนียมรายปีที่คุณจ่ายไปมันคุ้มหรือไม่ ถ้าเกิดคุณสามารถคิดได้แบบนี้หล่ะก็คุณมาถูกทางแล้ว เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับผู้ที่ใช้บัตรเครดิตที่มาพร้อมค่าธรรมเนียม ก็คือผู้ถือบัตรที่ไม่ทราบเลยตอนนี้บัตรมีสิทธิพิเศษอะไรบ้าง? เราเสียเงินเพื่อได้รับสิทธิประโยชน์อะไรกลับมา?

2. คำนวณค่าธรรมเนียมรายปีของคุณเอาไว้ให้ดี
ในแต่ละปีมีผู้ถือบัตรเครดิตเสียค่าธรรมเนียมรายปีของบัตรเครดิต ในราคาตั้งแต่ $49-$550 เลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนบัตรเครดิตที่ถืออยู่ด้วย มันค่อนข้างสำคัญที่จะหันกลับมาทบทวนรายจ่ายดู หากอยากจะลดค่าใช้จ่ายตรงนี้

สิ่งแรกที่ควรเริ่มต้นมากที่สุดก็คือเริ่มคำนวณเปรียบเทียบมูลค่าของรางวัลที่การ์ดเเต่ละใบมอบให้กับคุณ กับค่าธรรมเนียมรายปีของบัตรแต่ละใบ สิทธิประโยชน์ที่คุณไม่ค่อยได้ใช้ และสิทธิประโยชน์ที่ซ้ำกับบัตรที่คุณมีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ เท่านี้คุณก็สามารถหาตัวการบัตรเครดิตที่กำลังกินค่าธรรมเนียมของคุณโดยไม่จำเป็นอยู่แล้วหล่ะ ยกเลิกด่วนๆ

3. โทรยกเลิกบัตรกับธนาคาร เผื่อได้รับ retention bonus
คงเป็นเรื่องง่ายที่จะเซย์กู้ดบาย ยกเลิกบัตรเครดิตที่เราแทบไม่ได้ใช้ หรือมีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ แต่บัตรเครดิตใบโปรดที่มาพร้อมค่าธรรมเนียมเกินงบประมาณของคุณนี้สิ โอยยจะทำอย่างไรก็ตัดไม่ลงจริงๆ

ก่อนที่จะตัดใจยกเลิก เราขอแนะนำให้คุณลองโทรไปหาธนาคารตามหมายเลขด้านหลังของบัตรแข็งดูสักหน่อย บอกพนักงานว่าคุณอยากที่จะปิดบัตรเครดิตใบนี้เพราะว่า ค่าธรรมเนียมรายปีมันเกินงบประมาณของคุณ พอจะมีข้อเสนอพิเศษอะไรที่พอจะมาชดเชย เพื่อยกเว้นค่าธรรมเนียมตรงนี้หรือไม่

ธนาคารอาจจะปฎิเสธคำร้องของคุณ กรณีนี้คุณจะต้องตัดสินใจว่าจะใช้บริการต่อหรือว่าจะปิดบัตรเครดิต อย่างไรก็ตาม บางครั้งธนาคารก็ไม่อยากที่จะเสียลูกค้าประจำเช่นคุณไป พวกเขามันจะมอบคะแนนโบนัสพิเศษหรือ Retention Bonus เพื่อให้คุณเปิดใช้บริการต่อไป << ถ้าเกิดคุณใช้บัตรเครดิตใบนี้เป็นประจำและไม่เคยขอโบนัสดังกล่าวเลย ก็มีโอกาสที่จะได้รับสิทธิพิเศษตรงนี้ไป

4. เปลี่ยนบัตรเครดิตของคุณเป็นแบบที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่อยากจะเก็บบัตรเครดิต แต่ว่าจ่ายค่ารักษารายปีไม่ไหว ก็คือลองเช็คดูว่ามีบัตรเครดิตประเภทเดียวกันแต่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีหรือไม่ บัตรเครดิตสะสมเเต้มที่เก็บค่าธรรมเนียมรายปีส่วนใหญ่จะมีบัตรเครดิตเวอร์ชั่นไม่เสียค่าธรรมเนียมอยู่แล้วหล่ะหากคุณสอบถามธนาคาร


บัตรเครดิตที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมอาจจะไม่ได้มีสิทธิประโยชน์เหมือนกับบัตรเครดิตใบเดิมของคุณเลยซะทีเดียว แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีการสะสมแต้มคะแนนเพื่อรับสิทธิประโยชน์ใกล้เคียงกัน

เลือกที่จะติดต่อธนาคารเพื่อขอเปลี่ยนบัตรเป็นแบบไม่มีค่าธรรมเนียมแทนที่จะปิดบัตรไปเลย ข้อดีก็คือคะแนนสะสมในบัตรเดิมของคุณจะยังอยู่ คุณไม่จำเป็นต้องยอมเสียเงินในระยะยาวกับสิทธิประโยชน์ที่คุณไม่ได้ใช้บ่อยขนาดนั้นอีกต่อไป แต่ในขณะเดียวกันบัตรก็ยังพอจะมีสิทธิประโยชน์ในไลฟ์สไตล์แบบเดิมที่คุณชื่นชอบ อาจจะลดได้ไม่เยอะเท่ากับใบแรกแต่ถ้าหักลบ ค่าธรรมเนียมรายปีที่ต้องเสียไปรวมกับมูลค่าสิทธิประโยชน์ที่คุณไม่ค่อยได้ใช้แล้วหล่ะก็ บางทีอาจจะประหยัดค่าใช้จ่ายคุณได้มากกว่า

5. เลือกใช้บัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมตลอดชีพ 
หากที่ผ่านมาคุณวุ่นวายกับการเสียค่าธรรมเนียมรายปี เวฟค่าธรรมเนียม จ่ายเท่าไหร่ถึงจะยกเว้นค่าธรรมเนียมจนปวดหัว และเริ่มรู้สึกไม่คุ้มกับสิ่งทีคุณได้รับ และทำตามทุกวิธีข้างบนที่เรากล่าวมาแล้วหล่ะก็ หันมามองหาบัตรเครดิตฟรีค่าธรรมเนียมตลอดชีพ 2018 ดูสิ จริงอยู่ที่ว่าสิทธิประโยชน์อาจจะไม่ได้ exclusive เท่ากับบัตรเครดิตที่เก็บค่าธรรมเนียมเป็นประจำ แต่คุณจะไม่ต้องมาวุ่นวายกับค่าธรรมเนียมอีกเลย และใช้สิทธิพิเศษสะสมแต้มเพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษได้เหมือนกัน ใครที่ใช้สิทธิพิเศษเป็นครั้งคราวไม่ได้ใช้ตลอดปี แน่นอนว่าใช้บัตรเครดิตแบบนี้น่าจะคุ้มกว่ากันเยอะเลย

อย่ารอช้า
มันอาจจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับใครหลายคน ที่จะต้องบอกลาสิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตที่เราเคยใช้เป็นประจำ แต่เชื่อเถอะว่าหลังจากนี้คุณจะสามารถใช้บัตรเครดิตได้อย่างสบายตัวมากขึ้นเพราะคุณได้ตัดรายจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีที่ไม่จำเป็นออกไปแล้ว

 




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สายไฟในบ้าน

สายไฟฟ้าในบ้าน สายไฟฟ้า(Cable wire) มีความสำคัญอย่างมากในการส่ง หรือจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้านเรือน อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านพักของคุณ ซึ่งมีความซับซ้อนอยู่พอสมควรหากคุณไม่ใช่ช่างฟ้าที่มีความรู้เรื่องนี้มากพอสมควร ดังนั้นการเลือกซื้อสายไฟฟ้าเพื่อมาติดตั้งในบ้านพักของประชาชนทั่วไปนั้น อาจจะทำให้ได้สายไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นสำหรับการส่งกระแสไฟฟ้าเพื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือมีขนาดเล็กจนไม่สามารถทนกระแสที่มีมากกว่าความสามารถของสายไฟฟ้านั้นจะรับได้ และอาจจะเกิดความร้อนขึ้นที่สายไฟฟ้าจนทำให้ฉนวนที่หุ้มสายไฟฟ้าทั้ง 2เส้นนั้นละลายออก จากนั้นสายทองแดงหรืออลูมิเนียมจะเกิดการลัดวงจรเมื่อสัมผัสโดนกัน และเกิดประกายไฟที่อาจจะทำเกิดไฟไหม้ได้ สายไฟฟ้ามีหน้าที่สำหรับนำพลังงานไฟฟ้า จากแหล่งจ่ายไฟไปยังบริภัณฑ์หรือ ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ผลิตสายไฟฟ้าขึ้นมากมายหลายชนิดตามความต้องการในรูปแบบต่างๆ เช่น สายไฟฟ้าเมนTHW สายเดี่ยวTHW สายไฟVCT สายไฟบ้านVAF สายไฟVSF สายไฟNYY สายไฟNYY-Ground สายไฟVAF-Ground สายไฟฟ้าบ้านปกติ สายไฟฟ้าฝังดิน สายไฟฟ้าอ่อนใช้ฝังดิน โดยผู้ใช้จะต้องพิ

CONSUMER UNIT  (ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต)

CONSUMER UNIT (ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต) "แผงจ่ายไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัย" เป็นแผงไฟฟ้าสำเร็จรูปนิยมใช้ในบ้านและหรือสำนักงานขนาดเล็กที่ใช้ไฟฟ้าระบบ 1 เฟส 220 โวลท์ มีลักษณะดังรูป Consumer Unit ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต ประกอบด้วยเมนเบรคเกอร์ (2 ขั้ว) และเบรคเกอร์ย่อย (1 ขั้ว) ที่เสียบต่ออยู่กับ bus bar มีขั้วต่อสายนิวทรอล และขั้วต่อสายกราวด์ ที่นิยมใช้ทั่วไปมีจำนวนวงจรย่อยตั้งแต่ 4-16 วงจรย่อย รูปด้านบนแสดงรายละเอียดภายในของ consumer unit ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต • หมายเลข1 = เมนเบรคเกอร์ 2 ขั้ว ให้เลือกขนาดตามมิเตอร์ของการไฟฟ้า (สูงสุดไม่เกิน 100 A) • หมายเลข2 = bus bar สำหรับวงจรขนาด 100 A • หมายเลข3 = Neutral Lug (N) • หมายเลข4 = Ground bar (G) • หมายเลข5 = miniature CB. แบบ 1 ขั้ว สำหรับวงจรย่อย • หมายเลข6 = Earth leakage miniature CB. แบบ 1 ขั้ว (เป็นเบรคเกอร์ชนิดกันไฟดูด อาจใช้หรือไม่ก็ได้) การเลือก consumer unit ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต มาใช้งานให้พิจารณาจากจำนวนวงจรย่อยที่ต้องการและควรเผื่อไว้ 1-2 วงจรสำหรับโหลดในอนาคต การซื้อ consumer จะได้รับเพียงตัว consumer และเมนเบรคเกอร

จัดไฟในบ้านให้ถูกหลัก..ฮวงจุ้ย

 เพื่อนๆ หลายคนมองข้ามเรื่องการวางระบบไฟฟ้าภายในบ้าน และไม่ค่อยใส่ใจสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะยกให้เป็นหน้าที่ของช่างไฟ แต่ในทาง ฮวงจุ้ย เรื่องของไฟฟ้านั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญค่อนข้างมากเช่นเดียวกับการจัดฮวงจุ้ยในรูปแบบอื่นๆ เพราะ “แสงสว่าง” บ่งบอกถึงพลังชีวิต เป็นพลังหยางที่เคลื่อนไหว และนำโชคลาภมาสู่บ้าน การจัดระบบไฟฟ้าจึงควรควรเลือกตำแหน่งของ หลอดไฟ ให้ดี วันนี้จึงนำข้อมูลฮวงจุ้ยเรื่องการจัดวาง หลอดไฟ ในบ้าน มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ 1. ไฟหน้าประตูรั้ว ไฟหน้าประตูรั้ว : ควรมีหลอดไฟ 2 ดวงวางด้านข้างประตู เปิดทิ้งไว้ในเวลากลางคืนเพื่อดึงโชคลาภเข้าสู่บ้าน เหตุผลที่ต้องติดไฟ 2 ดวง ก็เพื่อให้เกิดความสมดุลนั่นเอง นอกจากนี้กรณีที่บริเวณตรงข้ามกับบ้านเป็นบ้านร้าง หรือที่รกร้าง ไฟหน้าบ้านจะช่วยแก้ไขเรื่องพลังหยินพิฆาตได้อย่างดีอีกด้วย 2. ไฟในห้องนอน ไฟในห้องนอน : ไม่ควรใช้ไฟประเภทหลอดเปลือยมองเห็นหลอดไฟ ควรจะเป็นไฟติดโคมที่กรองแสง หรือทำเพดานหลุมเพื่อซ่อนไฟเอาไว้ และห้ามวางตำแหน่งของดวงไฟตรงกับเตียงนอน เพราะแสงจะสว่างจนเกินไปทำให้รบกวนการนอน 3. ไฟห้องน้ำ ไฟห้องน้ำ : ควรใช้ไฟที่สว่าง เพราะห้องน